บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำแถบพันท้ายฯได้รับความเสียหายจากพายุปาบึก

ADS-cable-tv-website-6-12-61-(แก้)

footer_master

ความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึก ได้สร้างความเสียหายไปในวงกว้างพอสมควร และอีกหนึ่งที่ที่ผู้เสียหายได้แจ้งเข้ามาก็คือพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทั้ง กุ้งหอยปูปลา เช่นเดียวกับตำบลบ้านบ่อ และความเสียหายก็คล้ายกัน คือโดนแรงคลื่นจากพายุปาบึกพัดจนคันดินแตกไปเมื่อวันเสาร์ที่5ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าคันดินทั้งแถบที่ติดชายทะเลเสียหายเกือบทั้งหมด จะมีเพียงบางบ่อที่อยู่ลึกเข้ามาในผืนดินจึงไม่เสียหาย ส่วนกุ้งหอยปูปลาที่เลี้ยงไว้ก็หายไปกับน้ำหมดแล้ว เจ้าของบ่อเล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุก็เป็นช่วงก่อนรุ่งเช้าของวันที่ 5 ตอนนั้นมีทั้งคลื่น ทั้งลมพัดปะทะฝั่งอย่างแรง ความสูงของคลื่นก็เลยแนวต้นไม้ ขนาดบางจุดที่มีไม้ป่าชายเลนขึ้นก็ยังไม่สามารถลดความแรงได้ ส่วนแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่นไม่ต้องพูดถึง โดนคลื่นก็หลุดหักลอยเข้ามาติดด้านในเกือบทั้งหมด ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ตอนนี้ได้ไปติดต่อทำเรื่องขอความช่วยเหลือจากทางท้องถิ่นแล้ว เบื้องต้นทางท้องถิ่นแจ้งว่าจะชดเชยได้บ่อละ 2,000 บาทเท่านั้น ตามอำนาจหน้าที่ และให้ไปแจ้งที่สำนักงานเกษตรถึงความเสียหายในครั้งนี้ด้วย

                        สำหรับตอนนี้เจ้าของบ่อแต่ละบ่อก็ได้ออกทุนเพื่อซ่อมคันบ่อกันเอง โดยต้องจ้างรถตักมาตักดินขึ้นไม่เสริม ต้องใช้ไม้ไผ่มาปักเป็นแนวให้แน่นด้วย ซึ่งประเมินคร่าวๆก็ต้องเสียค่าซ่อม ค่าแรง ค่าวัสดุ บ่อละประมาณเกือบ 200,000 บาท นี่ยังไม่รวมเงินที่ควรจะได้จากการจับสัตว์น้ำขาย ซึ่งเขาบอกกันว่าหากจับปู จับกุ้ง ขายได้รอบนี้ก็น่าจะได้ประมาณ สองสามแสนบาทเป็นอย่างน้อย แต่นี้กลับสูญไปหมดและต้องมาเสียอีกหลายแสนในการซ่อม

ส่วนต่อไป ชาวบ้านบอกว่าอยากให้ภาครัฐพิจารณาถึงวิธีป้องกันคลื่นด้วย เพราะไม่แน่วันข้างหน้าก็อาจมีภัยแบบนี้ตามมา ถ้าหากแนวป้องกันคลื่นยังเป็นแบบนี้ ชาวบ้านก็ต้องเสียหายแบบนี้อีก

                                 

footer_master footer_master footer_master

เอเซีย/ ภาพ  พรเพ็ญ / ข่าว