ถูกมอมยารูดทรัพย์

AD-WEBSITE-CABLE-TV-แก้ไข-8-3-60-11

ส.มอมยา1

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ในตำบลนาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่ามีชายหนุ่มถูกมอมยาอยู่ในอาการมึนงง ภายในห้องพัก จึงได้ให้ตำรวจสายตรวจนาดี เข้าตรวจสอบที่ห้องดังกล่าว พบชายหนุ่มวัย 25 ปี ชื่อนายวา นามสมมติ เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร สภาพอยู่ในอาการมึนงง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว พูดจา ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง และยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ค่อยได้ นอกจากนี้ภายในห้องยังพบเสื้อกล้ามแขวนอยู่ข้างฝา กางเกงยีนส์กับเสื้อยืด กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายมีเงินกว่า 100 บาท และกุญแจรถยนต์กระบะกองอยู่ที่โต๊ะกระจก ส่วนบนโต๊ะข้างเตียงนอน มีแก้วเบียร์ 2 ใบตั้งอยู่ โดยในแก้วยังมีเบียร์เหลืออยู่เกือบครึ่งแก้ว  นอกจากนี้ที่พื้นห้องยังพบซองถุงยางอนามัยถูกฉีกทิ้งไว้ 1 ซอง

ส.มอมยา2

นายวา นามสมมติ ได้บอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งที่อยู่ในอาการมึนๆ ว่า ตนเองจำชื่อเพื่อนชายที่ก่อเหตุไม่ได้ เพราะยังไม่สร่างจากยา และเพิ่งจะรู้จักกันทางเฟซบุ๊กกับไลน์คุยกันได้ประมาณ 3 วัน ตนรู้จากคำบอกเล่าเพียงแค่ว่า มีบ้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวบางบอน จากนั้นก็ได้นัดหมายชวนกันไปเที่ยวแก่งกระจานเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีทั้งหมด 4 คน คือตนและเพื่อนสนิทของตนรวม 3 คน และเพื่อนชายคนใหม่ที่ก่อเหตุอีก 1 คน จากนั้นพอกลับมาตอนค่ำ ตนก็แวะส่งเพื่อนกลับบ้านที่ในตัวมหาชัย ส่วนเพื่อนชายที่ก่อเหตุนั้นบอกว่า มืดแล้วไม่อยากกลับเข้าบ้านตอนดึกกลัวพ่อและแม่ดุ ตนจึงพาเข้าไปเปิดห้องพักในโรงแรมม่านรูด แล้วก็สั่งเบียร์มากินกัน 2 ขวด ซึ่งพอตนเองกินเข้าไปแก้วแรกนั้น ก็รู้สึกมึนเหมือนเมามาก พอสักพักหนึ่งก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ครั้นพอตอนเช้ามาตื่นขึ้นมาทั้งที่ยังมึนงง แต่ก็รู้ว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 4 บาท และพระหลวงปู่หลิวเลี่ยมทองหายไป พร้อมกับเพื่อนชายที่มานอนในโรงแรมด้วยกันก็หายไปด้วยอีกคน โชคดีที่ทรัพย์สินอื่นๆ ยังอยู่ครบ รวมถึงรถยนต์กระบะของตนที่ขับมาจอดนอนด้วย

ส.มอมยา3

ขณะที่พนักงานโรงแรมม่านรูดบอกว่า เมื่อช่วงเช้ามืดประมาณตี 3 มีพนักงานเห็นผู้ก่อเหตุได้ออกมาจากห้อง แล้วก็ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างออกไป จนกระทั่งเช้ามายังเห็นรถยนต์กระบะจอดอยู่ ก็เข้าไปเคาะเรียกคนที่พักในห้อง ซึ่งก็เห็นหนุ่มผู้เสียหายอยู่เพียงคนเดียว และผู้เสียหายต้องการจะแจ้งความ ทางพนักงานฯจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานไว้ ส่วนผู้เสียหายก็ได้ให้นอนพักต่อจนกว่าอาการมึนงงจะดีขึ้น แล้วก็ให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป./

 

สุเมธ/ภาพ/ข่าว