ตำรวจสมุทรสาครรวบแก๊งชิงทรัพย์ต่อเนื่อง
เมื่อเวลาประมาณ 10.00น. ของวันที่ 22 มกราคม2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และพ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาครร่วมแถลงผลการจับกุมนายชัยธวัช แก้วปาน อายุ 28 ปี, นายพรชัย แก้วปาน อายุ 38 และ นายสมใจ โตกราน อายุ 40 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นคนจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลางมีดปลายแหลม 1 เล่ม, รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน, รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องโดยแจ้งข้อกล่าวหานายชัยธวัชฯ และนายพรชัยฯ ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ส่วนนายสมใจฯ แจ้งข้อกล่าวหาว่ารับของโจร ซึ่งพฤติการณ์ก่อนการจับกุม เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2562 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนเวรว่า มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้ชายเป็นยานพาหนะก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ นางสุชาดา อ่วมเปี่ยม อายุ 43 ปี บริเวณริมถนน หน้าโรงงานวุ้นเส้นเกาลูน ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยได้ทรัพย์สินไปประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ HUAWEI รุ่น Y5 จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 4,000 บาท และเอกสารประจำตัวของผู้เสียหาย จึงทำการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายชัยธวัชฯ และนายพรชัยฯได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ บ้านเลขที่ 54 ม.9 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งวันที่ 21 ม.ค.2562 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหมวดรักษาความสงบจังหวัดสมุทรสาคร นำกำลังเข้าจับกุม จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ของผู้เสียหายจริง โดยมีนายชัยธวัชฯ เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ส่วนนายพรชัยฯ เป็นคนลงมือจี้ชิงทรัพย์ หลังก่อเหตุได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปขายให้กับนายสมใจฯ ได้เงินมาประมาณ 1,000 บาท และยังเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร อีกหลายครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจับนายสมใจฯ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดต่อผู้เสียหายในแต่ละคดีเพื่อมาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหาและยืนยันทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายก่อนจะได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุเมธ /ภาพ/ข่าว
