ตร.เตรียมเรียกผู้เสียหายเข้าให้ปากคำ
เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 23 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านมหาชิลล…ภายในตลาดยามเย็น ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.ที่ผ่านมา
โดยทางด้าน พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ควบคุมตัวนายรณชัย ตุ้มนิลการ ผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นมาดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยมีมูลเหตุเนื่องจากทะเลาะวิวาทเลยใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว ในส่วนความผิดของผู้ก่อเหตุที่ใช้ขวดเข้าไปตีศีรษะผู้เสียหายและกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าร่วมทำร้ายร่างกายด้วยนั้น ก็ต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และรอเรียกผู้ใหญ่บ้านกับเพื่อนสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ก่อเหตุฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น นอกจากนี้ในส่วนของความผิดอื่นๆ เช่น พรบ.อาวุธปืน การพกพาอาวุธปืน และการครอบครองอาวุธปืนนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ขณะที่ร้านอาหารก็ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่า ในช่วงเกิดเหตุนั้นปิดแล้วจริงหรือไม่ แต่จากคำบอกกล่าวในเบื้องต้นก็บอกว่าปิดหมดแล้วตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็อาจจะมีความผิดในฐานปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และต้องว่ากันไปตามความเป็นจริง
ส่วนทางด้านร.ต.อ.รุ่งเรือง เฮงฮู้ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดีเปิดเผยความคืบหน้าว่าขณะนี้ทางด้าน นายชโลธร แพรกอุดม กับ นางสาวสรณ์ นามสมมติ เพื่อนสาว เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเติมกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว และจากการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดพบว่าผู้ก่อเหตุมีประมาณแค่ 4-5 คนเท่านั้น ที่เหลือนั้นเพียงจะเข้าไปห้ามไม่ให้มีเรื่อง นอกจากนี้ก็ได้มีการควบคุมตัวนายรณชัย ตุ้มนิลการ คนที่ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนผู้ที่ใส่เสื้อขาวแล้วถือขวดเบียร์ตีนายชโลธร แพรกอุดม นั้นคือนายนายบงกช ลาเฟื้อย อายุ 30 ปีเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะได้เรียกตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านของนายชโลธร แพรกอุดม ก็ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เริ่มมาจากทางฝ่ายของพวกตน แม้เพื่อนสาวที่มาด้วย 2 คน จะถูกพูดจาใส่แบบไม่ให้เกียรติ แต่พวกตนก็ไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายใคร ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เข้ามาทำร้ายร่างกายก่อน มีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจน ส่วนทางด้านของนายรณชัยฯ ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้วนั้น ก็มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย ก็เพื่อเป็นการช่วยชีวิตตนและเพื่อนๆ รวมถึงตัวเองด้วย ซึ่ง ณ เวลานั้นหากนายรณชัยฯไม่ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม พวกตนก็อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว จะเห็นได้ว่าพออีกฝ่ายเอาขวดมาตีหัวจนตนล้มลงไปที่พื้นแล้ว ก็ยังเอาโต๊ะขึ้นมาฟาดซ้ำอีกด้วย ส่วนนายรณชัยฯ ก็ถูกทำร้ายร่างกายไม่น้อยเหมือนกัน
สุเมธ /ภาพ/ข่าว
