ช่วยคนกลางแม่น้ำ

AD WEB NET 2

 

พี่เมธ ช่วยคน1

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนตกลงไปในแม่น้ำท่าจีน บริเวณหน้าวัดศรีเมือง ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  แต่สามารถเกาะกอสวะไว้ได้ แล้วลอยตามน้ำขึ้นไปทางอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้มีการประสานไปยังศูนย์วิทยุนรสิงห์ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ เข้าตรวจสอบทุกพื้นที่ ที่แม่น้ำท่าจีนไหลผ่านขึ้นไป พร้อมกับมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครเข้าให้การช่วยเหลือ เพื่อนำผู้ที่พลัดตกน้ำขึ้นมาให้ได้ แต่เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและไม่มีเรือที่จะลงไปช่วยได้ จึงต้องมีการประสานขอเรือจากหลายภาคส่วน ซึ่งในช่วงเวลาที่รอการอนุมัติให้นำเรือออกไปช่วยเหลือนั้น ผู้ที่พลัดตกลงไปในแม่น้ำที่เกาะกอสวะไว้ได้นั้น ก็ลอยตามน้ำไปอย่างเร็วท่ามกลางผักตบชวาที่เต็มแม่น้ำท่าจีน โดยลอยขึ้นมาถึงบริเวณด้านหน้าวัดบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาครแล้ว ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดที่พลเมืองดีแจ้งเหตุในตอนต้นประมาณ 2 – 3 กิโลเมตรเศษ

พี่เมธ ช่วยคน2

และในขณะที่ทุกคนกำลังหาทางช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในแม่น้ำท่าจีนให้ขึ้นมาได้นั้น ก็ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายขวัญตา เหลืองขมิ้น หรือ ลุงติ๊งแน็ต อายุ 56 ปี ว่ายน้ำจากฝั่งออกไปยังกอสวะที่ชายคนดังกล่าวเกาะอยู่ ซึ่งหากออกไปประมาณ 50 – 60  เมตร แล้วก็เข้าไปช่วยดันตัวชายคนดังกล่าวให้ปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนกอสวะได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่ตัวของลุงติ๊งแน็ตจะปีนขึ้นไปนั่งด้วยอีกคน พร้อมกับส่งสัญญาณยกมือขอความช่วยเหลือ และไม่นานก็มีเรือของพลเมืองดีแล่นเข้าไปช่วยลุงติ๊งแน็ตและชายที่พลัดตกลงไปในแม่น้ำท่าจีนกลับขึ้นฝั่งได้เป็นผลสำเร็จปลอดภัยทั้งคู่ โดยทราบชื่อผู้ที่ตกลงไปในแม่น้ำท่าจีนคือ นายพรชัย ไหลไม้งาม อายุ 53 ปี อยู่พื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีสภาพคล้ายกับคนเมาสุรา หลังจากที่ขึ้นมาบนฝั่งแล้ว ลุงติ๊งแน็ตยังได้ขับรถจักรยานยนต์พาไปส่งที่บ้านอีกด้วย

พี่เมธ ช่วยคน3

ด้านลุงติ๊งแน็ต เล่าว่า ตนเองมีอาชีพเป็น อปพร.ของเทศบาลตำบลบ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วย มีรายได้ที่ไม่แน่นอนประมาณวันละ 100 – 200 บาท อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กับ นางติ๋ม ม่วงไหม อายุ 45 ปี ภรรยา โดยมีลูก 2 คน ซึ่งต่างก็มีครอบครัวและแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ทั้งนี้ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนได้นั่งอยู่ที่ศาลาท่าน้ำวัดบางปลา แล้วก็เห็นมีคนยืนอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนจำนวนมาก จึงสงสัยว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนสะพานหรือไม่ ก็เลยขับรถไปดู จึงก็มีคนบอกว่า มีคนตกน้ำจากหน้าวัดศรีเมือง แต่เกาะกอสวะไว้ได้และกำลังลอยผ่านมาทางหน้าวัดบางปลา เมื่อตนเห็นคนลอยอยู่ในแม่น้ำท่าจีน จึงได้รีบวิ่งไปข้างสะพานแล้วก็ฝากกุญแจรถกับโทรศัพท์มือถือไว้กับคนที่รู้จักกัน จากนั้นก็ว่ายน้ำออกไปช่วยชายคนดังกล่าว โดยเมื่อว่ายน้ำไปถึงตัวก็เห็นว่าเขาใกล้จะหมดแรงแล้ว จึงบอกเขาว่า ตนจะดันก้นให้แล้วก็ให้ปีนขึ้นไปนั่งบนกอสวะซึ่งเขาก็ทำตาม แล้วตนก็ปีนตามขึ้นไปนั่งด้วยอีกคน โดยขณะที่นั่งอยู่บนกอสวะด้วยกัน เพื่อรอคนมาช่วยนั้น ก็ถามเขาว่าไปทำอะไรมาถึงมาลอยอยู่ในแม่น้ำแบบนี้ เขาก็บอกว่าเขาเครียดที่ต้องมีชีวิตทุกข์ยาก แม่ก็ไม่สบาย จึงดื่มเหล้าก่อนที่จะกระโดดลงมาในแม่น้ำท่าจีน แต่แล้วก็คิดได้จึงว่ายน้ำเกาะกอสวะไว้และลอยตามน้ำเรื่อยมา ซึ่งถ้าช้ากว่านี้อีกนิด ก็คงจะหมดแรงเกาะกอสวะต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว โดยหลังจากที่พากันขึ้นมาถึงบนฝั่งที่หน้าวัดพันธุวงษ์ แล้ว ลุงติ๊งแน็ตยังได้ขับรถจักรยานยนต์คู่ชีพที่มีคนขับตามมาให้นั้น พานายพรชัย ไหลไม้งาม ไปส่งถึงบ้าน และสอนว่าอย่าดื่มสุรา อย่าคิดสั้นฆ่าตัวตายอีก

ลุงติ๊งแน็ต บอกว่า ตนเองนั้นรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่สามารถช่วยคนๆ หนึ่งให้มีชีวิตรอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทุกวันนี้ตนเองก็ทำงานจิตอาสาด้วยการเป็น อปพร.อยู่แล้ว และยิ่งได้มาช่วยชีวิตคนก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นไปอีก ส่วนถ้าถามว่ากลัวมั้ย หากว่ายน้ำออกไปแล้วจะหมดแรง ลุงติ๊งแน็ตก็บอกว่า ไม่รู้สึกกลัวเลย เพราะตนเองนั้นว่ายน้ำข้ามฝั่งในแม่น้ำท่าจีนมาตั้งแต่เด็ก

ส่วนชาวบ้านที่มารอดูและลุ้นการช่วยเหลือชีวิตชายคนหนึ่ง โดยมีลุงติ๊งแน็ตเป็นฮีโร่นั้น ก็บอกว่า ลุงติ๊งแน็ตเป็นคนว่ายน้ำเก่งมาก และชอบช่วยเหลือคนรอบข้าง ใครมีอะไรให้ช่วยถ้าช่วยได้ก็จะช่วยทันที../

 

สุเมธ/ภาพ/ข่าว