ชนชิงทรัพย์

AD WEB NET 2

 

พี่เมธ ชนชิงทรัพย์ 1

ทีมข่าวมหาชัยเคเบิลทีวีได้รับการเปิดเผยจากคุณไพโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) พลเมืองดีที่พบเห็นเหตุการณ์ของขบวนการแก็งค์ตบทรัพย์บนถนนสาย 347 บางปะอิน – บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะกำลังขับรถไปทำธุระที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยพลเมืองดีเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ในเวลาดังกล่าวขณะที่ตนและแฟนสาวกำลังขับรถบนถนนสาย 347 ช่วงบางปะอิน – บางปะหัน เพื่อจะไปทำธุระที่จังหวัดนครสวรรค์นั้น

 

พี่เมธ ชนชิงทรัพย์ 2

ในช่วงจังหวะที่ลงจากสะพานก็เห็นมีรถยนต์กระบะคันหนึ่งขับอยู่ข้างหน้าตรงเลนกลางโดยขับตามหลังรถยนต์เก๋งสีดำ ขณะที่เลนซ้ายสุดก็มีรถยนต์เก๋งสีขาวขับตามๆ กันมา พอช่วงจังหวะที่รถยนต์กระบะขับเข้าเลนขวาสุด เพื่อจะแซงรถยนต์เก๋งสีดำคันหน้านั้น รถยนต์เก๋งคันสีขาวที่อยู่เลนซ้ายก็รีบขับแทรกมาทางเลนขวาสุดตามรถยนต์กระบะไป และพยายามที่จะทำให้รถยนต์กระบะขับเข้าเลนกลางให้ได้ ซึ่งเมื่อรถยนต์กระบะขับเข้าไปเลนตรงกลางหน้ารถยนต์เก๋งสีดำแล้ว ก็ปรากฏว่ารถยนต์เก๋งสีดำได้เร่งเครื่องขึ้นมาชนท้ายรถยนต์กระบะแต่ไม่เป็นอะไรมากนัก แล้วรถยนต์เก๋งคันสีดำก็ขับเข้าข้างทางก่อน ส่วนรถยนต์กระบะก็ได้ขับเลยไปแล้วชิดซ้ายจอดไหล่ทาง ส่วนรถของตนที่ขับตามรถยนต์กระบะมานั้น ก็ได้จอดด้านหลังและได้เรียกคนขับรถยนต์กระบะมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเจ้าของรถยนต์กระบะก็เดินมาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ทางตนเลยบอกว่า ถ้าเช่นนั้นก็เอาเบอร์โทรศัพท์ผมไว้ หากมีอะไรก็ให้โทรมาได้เพราะรถผมมีกล้องติดหน้ารถ จะได้ช่วยเป็นพยานให้ได้ว่า ทางรถยนต์กระบะไม่ผิด แต่รถยนต์เก๋งคันสีดำน่าจะเป็นฝ่ายผิดมากกว่า ที่เร่งเครื่องขับขึ้นไปชนท้าย ครั้นพอตนเองแยกย้ายจากรถกระบะมาได้ประมาณ 5 นาที ก็มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่า เป็นเจ้าของรถกระบะ อยากจะให้ตนช่วยพูดกับเจ้าของรถยนต์เก๋งคันสีดำให้ทีว่า เมื่อกี้นี้เหตุการณ์เป็นอย่างไร เพราะทางเจ้าของรถยนต์เก๋งขับตามมาแล้วก็มาเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 8,000 บาท ทั้งนี้ตนเองจึงได้พูดสายกับเจ้าของรถยนต์เก๋งสีดำว่า คนขับรถยนต์กระบะไม่น่าจะผิด ซึ่งหากรถยนต์เก๋งต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหาย ก็ให้เอาภาพจากกล้องวงจรปิดไปดูเป็นหลักฐานได้ และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายตัดสินจะดีกว่า โดยทางเจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวก็บอกว่า งั้นไม่เป็นไรแล้วก็วางสายไป  จากนั้นตนเองก็โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน และอีกไม่ถึง 5 นาที เจ้าของรถยนต์กระบะก็โทรศัพท์เข้ามาใหม่บอกว่า เรียบร้อยแล้วนะพี่ พวกเขาจะเรียกเงิน 8,000 บาท แต่ผมไม่ยอมเขาจึงปลีกตัวขึ้นรถขับออกไป พลเมืองดีเล่าอีกว่า ตนเองได้ขับรถมาจอดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แล้วก็ได้มาเจอกับเจ้าของรถยนต์กระบะ ซึ่งก็ได้ยืนพูดคุยกันสักพัก ในช่วงจังหวะที่กำลังพูดกันนั้นตนที่ยืนหันหน้าออกถนน ก็เห็นรถยนต์เก๋งสีดำคันเดิมขับผ่านไป

พี่เมธ ชนชิงทรัพย์ 3

ครั้นพอตนขับรถออกมาจากปั๊มได้ไม่ไกลมากนัก ก็เห็นรถยนต์เก๋งสีดำจอดอยู่ข้างทาง โดยมีรถยนต์กระบะอีกคันจอดอยู่ข้างหน้าในลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ แต่คราวนี้เจ้าของรถเป็นชายหญิงสูงอายุ 2 คน ซึ่งตนเองก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจอีกครั้ง และทางเจ้าของรถกระบะคันแรกก็โทรศัพท์มาคุยด้วย บอกว่ารถยนต์เก๋งคันเดิมก่อเหตุอีกแล้ว ส่วนทางตำรวจได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่า ไปถึงที่เกิดเหตุแล้วไม่เจอใครเลย ซึ่งนับระยะเวลาห่างจากที่ตนเองโทรศัพท์ไปบอกไม่กี่นาทีเท่านั้น แสดงว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้วิธีการนี้กับผู้ขับรถยนต์บนท้องถนนและทำกันเป็นขบวนการที่รวดเร็วมาก ดังนั้นจึงอยากจะฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวัง ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็ขอให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ก่อน และถ้าหากมีกล้องติดหน้ารถไว้ก็จะดียิ่งขึ้น เพราะแม้เหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา แต่ก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้…/

สุเมธ/ภาพ/ข่าว