จยย.ล้มถูกรถทับ

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตบนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน เส้นคู่ขนานถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพมหานคร หมู่ที่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ สภาพศพศีรษะแหลก มันสมองแตกกระจาย เลือดไหลนองพื้น ใกล้กับศพมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินดำ  ซึ่งเป็นคันที่ผู้ตายทั้งสองขับมาล้มคว่ำอยู่ สภาพเสียหายเล็กน้อย ทราบชื่อผู้ตายคือ นายวีระพัฒน์ เห่งใหญ่ อายุ 21 ปี เป็นพนักงานของไปรษณีย์เขตภาษีเจริญ กับ นายลิทธิชัย ชัยเกิดศรี อายุ 15 ปี นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านหนองแขม ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สีขาวยี่ห้อฮีโน่ ซึ่งเป็นรถคู่กรณีจอดอยู่   โดยมีนายชู  เอ็นอุ่นโชติ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 17 ต.ศรีแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด คนขับรถบรรทุกพ่วง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านเด็กชายสกุลชัย อิ่มทรัพย์ อายุ 14 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองพร้อมเพื่อนๆ รวม 6 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 3 คัน คันละ 2 คน ออกมาจากบ้านแถวซอยจรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อจะไปเที่ยวดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม โดยได้ขับรถตามกันมาเรื่อยๆ มีรถของเพื่อนขับนำหน้า 1 คัน รถของตนขับตรงกลาง และรถของผู้ตายขับตามมาด้านหลัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่า ขณะที่รถทุกคันขับอยู่ฝั่งซ้ายสุดนั้น รถของผู้ตายได้เสียหลักปัดมาชนท้ายรถของตนเองเป็นรอยนิดเดียวตรงป้ายทะเบียน แต่ผู้ตายได้เสียการทรงตัว ทำให้รถล้มลงไปและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อขับตามมา จึงทำให้เพื่อนทั้งสองคนที่ล้มลงไปบนถนน ถูกล้อรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทับศีรษะจนเละ เสียชีวิตคาที่

ด้านนายชู  เอ็นอุ่นโชติ คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ให้การในเบื้องต้นว่า ตนเองได้ขับรถบรรทุก 18 ล้อ เพื่อจะนำแป้งเปียกไปส่งที่โรงงานแถวซอยคลองซื่อ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่ขณะที่กำลังขับรถข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีนนั้น ก็เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับในลักษณะส่ายไปส่ายมาคล้ายเสียหลักก่อนจะล้มคว่ำลงบนถนนทั้งรถทั้งคน ซึ่งตนก็พยายามที่จะเบรกรถแล้วแต่ไม่ทัน จึงทำให้ล้อรถไปทับศีรษะทั้งสองคน ทั้งนี้ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ และเพื่อนๆ ของผู้ตายอีก 4 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป../

สุเมธ/ภาพ/ข่าว