คนร้ายใช้ปืนลูกซองยิงปากหนุ่มวินจักรยานยนต์ดับ
เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันที่ 5 ตุลาคม 2562 ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณชุมชนซอยกำนันวิจิตร ม.10 ซอยเพชรเกษม 114 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงเข้าตรวจสอบ โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าห้องแถวตรงข้ามสถานีอนามัยสายสี่ พบศพนายปรีชา แก้วรักษา อายุ 50 ปี ถูกอาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 ยิงเข้าที่บริเวณแก้มขวา และแก้มก้นด้านขวา ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ นอกจากนี้ในเวลาไร่เรี่ยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกยิงอีก 1 คน ที่บริเวณสระว่ายน้ำ หมู่บ้านสินสมบูรณ์ ห่างจากจุดที่นายปรีชาฯ เสียชีวิตออกไปประมาณ 200 เมตร จึงรีบไปตรวจสอบก็พบว่าผู้บาดเจ็บคือนายภานุพงษ์ สงวนถิ่น อายุ 32 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 เหมือนกัน ที่บริเวณแก้มด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันเข้าจับกุมตัวนายอำนาจ พรศักดิ์ประเสริฐ อายุ 62 ปี มือปืนที่ก่อเหตุพร้อมของกลางเป็นรถยนต์กระบะมิสซูบิชิไทรทันสีแดง หมายเลขทะเบียน ตท 2810 กรุงเทพมหานคร และอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ไว้ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งบริเวณซอยเอกชัย 81 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านายปรีชาแก้วรักษาที่ถูกยิงตายมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างโดยก่อนหน้านี้ได้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างมารับส่งภรรยาของตนเป็นเวลา 4 – 5 ปีแล้วซึ่งตนเกิดความสงสัยว่าทั้งสองคนมีพฤติการณ์ชู้สาวจนกระทั่งจับได้จึงเกิดความคับแค้นใจและลงมือก่อเหตุดังกล่าวส่วนนายภานุพงษ์สงวนถิ่นที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้นเป็นหลานชายของตนเองแต่มีนิสัยชอบโวยวายและชอบทำร้ายลูกของตนอีกทั้งยังทำลายทรัพย์สินภายในบ้านด้วยความโมโหที่มีอยู่แล้วพอหลังจากก่อเหตุยิงนายปรีชาฯจึงก็ได้กลับไปยิงนายภานุพงษ์อีกคนจากนั้นก็หลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านน้องชายในพื้นที่เขตบางขุนเทียนกรุงเทพฯจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด
ซึ่งในช่วงเที่ยงของวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ตำรวจก็ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยจุดแรกเป็นจุดที่ยิงนายปรีชา แก้วรักษา อายุ 50 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิต ซึ่งขณะที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นก็หวิดเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น เมื่อมีผู้ที่มามุงดูคนหนึ่งวิ่งเข้าไปแล้วพยายามชกต่อยผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าชาร์จตัวไว้ทัน และได้คุมตัวผู้ที่พยายามก่อเหตุวุ่นวายออกไป ส่วนตัวผู้ต้องหาก็รีบนำขึ้นรถแล้วพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ 2 ที่ยิงนายภานุพงษ์ สงวนถิ่น อายุ 32 ปี บาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยทาง พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งหมด ซึ่งสาเหตุหลักคือระแวงว่าภรรยาตนเองที่อยู่กินกันมาประมาณ 20 กว่าปี จะนอกใจไปคบกับนายปรีชาฯ ส่วนอีกคนที่ถูกยิงนั้น เป็นความโกรธแค้นส่วนตัวที่สะสมมานานแล้ว สาเหตุเกิดจากนายภานุพงษ์ ชอบมาขอเงินผู้ต้องหาและภรรยา อีกทั้งยังชอบแกล้งและทำร้ายลูกของผู้ต้องหาที่เป็นออทิสติก ซึ่งเมื่อยิงนายปรีชาฯ แล้ว ก็เลยตัดสินใจยิงนายภานุพงษ์ ด้วย ส่วนข้อกล่าวหาที่ตั้งไว้คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะว่าผู้ต้องหามีการเตรียมการและจัดเตรียมอาวุธปืนมา 2-3วัน แล้วก่อนลงมือ
