ขับเคลื่อนโครงการลดอุบัติเหตุ

นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาโครงการบริหารข้อมูลเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รวมทั้งภาคีเครือที่จะร่วมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

โดยการสัมมนาครั้งนี้นั้น มีเป้าหมายหลักคือจะต้องลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2563 ตามประกาศเจตนารมณ์ปฎิญญามอสโก ที่กำหนดให้ปี ค.ศ.2011-2020 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัย และรัฐบาลกำหนดให้ทุกจังหวัดนำกรอบ 5 แนวทาง ขององค์การสหประชาชาติมาเป็นแนวทางการดำเนินงาน นั่นก็คือ 1.การบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน 2.ถนนและการสัญจรอย่างปลอดภัย 3.ยานพาหนะปลอดภัย 4.ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ5.การตอบสนองหลังการเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับในสมุทรสาครนั้น จากข้อมูลการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ในปี 2560 สมุทรสาครมีผู้เสียชีวิต 128 ราย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงและจัดอยู่ในลำดับต้นๆของประเทศ ซึ่งหากเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว อยู่ที่ 18-19 ต่อ แสนประชากร และหากจะเป็นไปตามเป้าหมาย สมุทรสาครจะต้องลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้ครึ่งหนึ่งของที่เป็นอยู่

ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บนท้องถนนเกิดอุบัติเหตุมาก และมีผู้เสียชีวิตมากนั่นก็คือ การขาดจิตสำนึกในการขับขี่ ที่คิดเป็นร้อยละ 70 ของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด และบนถนนพระรามสองนั้นเป็นเส้นทางที่มีจุดเสี่ยงเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งถนนสายรองก็ยังพบจุดเสี่ยงอันตรายมากเช่นเดียวกัน รวมทั้ง การขับขี่ยานพาหนะบนถนนพระรามสอง ส่วนใหญ่มักจะขับด้วยความเร็วสูง ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง และมักเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ  และอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล สมุทรสาครถือว่าเป็นพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดด้วย

ดังนั้น แนวทางที่จะช่วยลดอุบัติเหตุและอัตราการสูญเสีย ปัจจัยหลัก อยู่ที่ผู้ขับขี่ ที่จะต้องปฏิบัติตามวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท แต่อีกทางหนึ่ง การสูญเสียที่เกิดขึ้น ก็มักจะเกิดกับผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากผู้ที่ขับขี่โดยประมาทเช่นกัน

และในภาพรวมแล้ว ประเทศไทยติดอยู่ในลำดับที่ 2 ของโลกที่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุด และติดเป็นลำดับที่ 1 ของเอเชีย โดยเฉลี่ยแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากบนถนนถึง 22,000 คน ต่อปี จากข้อมูลดังกล่าว จึงอยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขับรถอย่างมีสติ ป้องกันอุบัติที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น

เอเชีย ภาพ/ พรเพ็ญ ข่าว