ข่าวท้องถิ่น

เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 12 ตุลาคม 2560 ร.ต.อ.ธนลภย์ ธราพร รองสารวัตร สอบสวน สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถนนพุทธสาคร บริเวณจุดควบคุมสัญญาณไฟจราจรจุดกลับรถปั๊มคาลเท็กซ์(ก่อนปากทางเข้าวัดหนองพะอง) ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร จึงพร้อมด้วยหน่วยแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมกซ์สีเขียวติดหลังคาแครี่บอย

พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร  นำข้าราชการตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดสมุทรสาครพร้อมสภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมโครงการเราทำความดีด้วยหัวใจ กิจกรรมปลูกต้นทานตะวัน เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9  ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ภ.จว.สมุทรสาคร  โดยมี รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ผกก.ฝอ.ภ.จว.สมุทรสาคร(ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการภูธรจังหวัดสมุทรสาคร) ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดสมุทรสาครเข้าร่วม สำหรับกิจกรรมดังกล่าวถือเป็น การร่วมปลูกดอกทานตะวันซึ่งเป็นดอกไม้สีเหลือง ก็เพราะเป็นสีวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี

  เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคม นายประภัสสรณ์ มาลากกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางไปยังวัดเจษฎาราม พระอารามหลวง สถานที่ที่ใช้จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปรึกษาและชี้แจงการดำเนินงานในส่วนต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ตอนนี้ ในส่วนของการสร้างพระเมรุมาศจำลองนั้นได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เหลือเพียงจัดภูมิทัศน์โดยรอบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.คอยอยู่เวรรักษาความปลอดภัยตลอด 24

  ด้วยจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดจัดพิธีรับมอบต้นดาวเรืองและดอกไม้จันทน์ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันอาทิตย์ ที่ 15 ตุลาคม 2560 เวลา 16.00 น. ณ ลานเอกนประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครหลังเก่า  โดยพิธีการนั้นจะเริ่มขึ้นในเวลา 16.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจะมายังที่จัดพิธี และรับมอบต้นดาวเรืองจากผู้สนับสนุน ซึ่งมีจำนานกว่าหนึ่งหมื่นต้น

ชาวบ้านที่ขับรถผ่านบริเวณบนสะพานต่างระดับหน้าบิ๊กซ้งและใต้สะพาน   รวมไปถึงถนนพระราม 2 ช่วงบริเวณตลาดนัดต้นสน  มีความเดือดร้อนเพราะเสาไฟส่องสว่างต้นใหญ่จำนวนหลายต้นชำรุดไม่ติดมาหลายเดือนมากแล้ว   ทำให้ผู้ที่สัญจรไปมาบริเวณดังกล่าวเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานนั้นมืดสนิท และเกิดเหตุกระชากสร้อยกันแล้วหลายราย  เพราะเป็นจุดอับไม่มีแสงสว่างจึงเป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมได้ง่าย  ส่วนถนนพระราม 2 บริเวณตลาดนัดต้นสนก็เช่นกัน เสาไฟส่องสว่างกลางถนนก็ชำรุด  ทำให้รถทุกชนิดที่วิ่งผ่านจุดดังกล่าวต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะถนนนั้นมืดสนิท   ทั้งนี้ชาวบ้านบอกว่า ปัญหานี้ไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบมานานแล้ว  อยากให้ลงมาแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายทั้งรถทั้งคน ทั้งการก่ออาชญากรรม วุฒิภักร

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2560 เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ได้รับการประสานจากนายระพีพรรณ อดุล เจ้าของบ้านเลขที่ 60/68 หมู่ที่ 4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ให้เข้าช่วยเหลือจับสัตว์มีลักษณะคล้ายอีเห็น ที่หลบหนีเข้ามาซุกตัวอยู่ภายในโรงซ่อมรถข้างตัวบ้าน ซึ่งเมื่อไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคารทาวน์เฮ้าส์

เมื่อเวลา 14.30น. ของวัน 11 ตุลาคม 2560 ดต.หยาดเพชร ณ บางช้าง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสาคร ประจำหน่วยบริการประชาชนนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร รับแจ้งจากผู้สัญจรผ่านเส้นทางถนนพระราม2 จังหวัดสมุทรสาคร ว่าพบผู้ชายจอดรถจักรยานยนต์ฟุบก้มหน้าพาดกับแฮนด์คล้ายคนหมดสตินานกว่าชั่วโมง ที่ริมถนนช่องทางด่วนพระราม2ขาเข้ากทม. ปากทางเข้าวัดสวนส้ม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร  นายอำพล  อังคภากรณ์กุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เป็นประธานในการแถลงข่าวของการดำเนินงานโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมด้วย นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร  นายอำนาจ  หนูทอง ประมงจังหวัด/ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ  นายบุญลอย  ทรัพย์มา ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร  และนายพูนศักดิ์ 

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2560  ที่วัดศรีวนาราม ตำบลบางกระเจ้า นายธานิน พ่วงบุญมา  อายุ 45 ปี  ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรนาเกลือสมุทรตำบลบางกระเจ้า และผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการฯกว่า 100 คน ซึ่งมีที่ทำการกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรนาเกลือสมุทรตำบลบางกระเจ้า ตั้งอยู่เลขที่

  สำหรับเรื่องการสร้างตึกอัยการลงบนพื้นที่ของแนวกำแพงป้อมวิเชียรโชฎก และภาคประชาชนกลุ่มที่คัดค้านก็ได้ฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559   กรณีที่ได้มีการเซ็นหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากรแล้วตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2558 ว่าให้สามารถสร้างได้หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ทางศาลปกครองกลางจึงมีหนังสือขอหลักฐานเพิ่มเติม ทางผู้ฟ้องจึงได้ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆไปให้ และทางศาลปกครองกลางได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรฟ้องอัยการด้วยให้เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ในฐานะผู้ร้องสอด และนอกจากนั้นทางภาคประชาชนได้ขอให้ศาลมีการคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉิน หากมีการสร้างเกิดขึ้นก็อยากให้มีคำสั่งระงับการก่อสร้าง และเมื่อช่วงเช้าของวันที่

  จากที่ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนแรกสำหรับการเปิดศูนย์จดทะเบียนและออกหนังสือคนประจำเรือสำหรับแรงงานต่างด้าวเพื่อทำงานในเรือประมง ซึ่งวันที่ 10 ตุลาคม นั้นก็ถือเป็นวันสุดท้ายที่นายจ้างจะมายื่นคำร้องเพื่อขอใช้แรงงานต่างด้าวในเรือประมง ณ สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครได้ โดยมีนายจ้างไปยื่นร้อง  153 ราย จำนวนเรือ 222ลำ จำนวนความต้องการแรงงาน 2287 คน  แต่จากที่ได้มีการสำรวจความต้องการแรงงานในเรือของจังหวัดสมุทรสาคร ปรากฏว่ามีตัวเลขถึง7,000 กว่าคน แต่ยอดแรงงานที่มาขอขึ้นทะเบียนกลับมีน้อยกว่าที่ต้องการมาก

  หลังจากที่ได้มีมติมหาเถระสมาคมเรื่องการจัดระเบียบวัตถุมงคล ซึ่งห้ามไม่ให้ทุกวัดนำวัตถุมงคล พระเครื่อง เข้าไปตั้งจำหน่ายในอุโบสถ รวมถึงการอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์โดยไม่คำนึงถึงหลักธรรมคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา ทำให้ประชาชนเกิดความหลงผิด ซึ่งตอนนี้หลายวัดก็กำลังจัดระเบียบเรื่องนี้ อย่างเช่น วัดเกตุมดีศรีวราราม ซึ่งเป็นวัดหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาครที่ก่อนหน้านี้จะพบว่ามีการนำวัตถุมงคลเข้าไปตั้งจำหน่ายในอุโบสถเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากที่ได้มีมติเรื่องนี้ออกมาได้สักระยะ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ขอเข้าสัมภาษณ์พระภาวนาวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดเกตุมดีศรีวราราม ซึ่งได้อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ วัดเกตุมมีเพียงอุโบสถหลังเก่าที่ไม่ใหญ่นัก และยังไม่มีวัตถุมงคลจำหน่าย ต่อมาได้มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่ที่ขนาดใหญ่ และก็เริ่มมีการทำวัตถุมงคลจำหน่าย