Author: MC Cable TV

อีกหนึ่งบรรยากาศของคืนวันลอยกระทงที่วัดบ้านขอม ซึ่งที่นี่ก็มีการทำกระทงเพื่อจำหน่ายเช่นเดียวกัน และเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ บรรยากาศในปีนี้อาจดูไม่คึกคักนัก เพราะไม่มีการจัดงานรื่นเริงแต่อย่างใด เป็นการจัดแบบประเพณีดั้งเดิม แต่ก็ยังมีประชาชนมาร่วมงานกันอย่างหนาตา ทั้งชาวชุมชน และก็ชาวมอญ ที่ร่วมลอยกระทงด้วยกัน ซึ่งทางวัดได้จัดจุดลอยไว้ตรงด้านหน้า ซึ่งก็ทำเป็นทุ่นให้คนลงไปลอยกัน ประเพณีลอยกระทงนับว่าเป็นประเพณีเก่าแก่ ที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ หลายที่ยังร่วมกันสืบสาน และบางที่ก็มีการจัดงานกันอย่างยิ่งใหญ่ วันนี้ทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุก็ได้ออกมาร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน     เอเชีย/

สำหรับการลอยกระทงเทียนของวัดนาโคกได้จัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว โดยใช้บริเวณรอบรูปหล่อหลวงพ่อสัมฤทธิ์องค์ใหญ่เป็นจุดลอย ซึ่งได้มีการทำเป็นบ่อน้ำ มีการจำลองให้เหมือนนาเกลือ ซึ่งชาวบ้านในตำบลนาโคก ก็ได้มาร่วมบูชาองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์และทำบุญซื้อกระทงเทียนดอกไม้ตามสีประจำวันเกิดมาร่วมลอยกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่ได้เห็นคนในหมู่บ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะปีที่ผ่านมาต่างคนก็ต่างมาลอยกันเองในคลอง การลอยกระทงเทียนในคลองจำลองรอบองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ นับเป็นการช่วยให้คลองธรรมชาติไม่มีขยะ เพราะหากลอยในคลองกระทงก็จะกลายเป็นขยะในที่สุด และนี่จึงเป็นการร่วมอนุรักษ์สายคลองอีกวิธีหนึ่ง             เอเชีย/ ภาพ  พรเพ็ญ /

ที่บริเวณลานพิธีเทศบาลนครอ้อมน้อย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ดร.สมศักดิ์ ขวัญเมือง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอ้อมน้อย เป็นประธานในพิธีถวายอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ในการนี้ก็ได้จัดให้มีการแปรอักษรเป็นรูปเลข ๙ โดยข้าราชการ บุคลากร ตลอดจนพี่น้องประชาชนของตำบลอ้อมน้อย ขณะที่คณะนักเรียน นักศึกษา ในเขตเทศบาลนครอ้อมน้อย ได้แปรอักษรเป็นข้อความว่า อ้อมน้อยรักพ่อ

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14  พฤศจิกายนที่ผ่านมา  บริเวณลานกิจกรรมวัดแหลมสุวรรณาราม ตำบลท่าฉลอม  เทศบาลนครสมุทรสาคร ได้ร่วมกับ โรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณาราม  โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลมเปี่ยมวิทยาคม  และชุมชนชาวตำบลท่าฉลอม  ได้จัดพิธีแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ก่อนเริ่มพิธีเหล่าน้องๆนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณาราม และโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม ได้ทยอยเดินไปกลางสนามเพื่อแปรอักษรเป็นเลข 9  ซึ่งอยู่ภายในตรงกลางหัวใจ เปรียบเหมือนพ่อหลวงจะคงอยู่ในใจของประชาชนชาวไทยตลอดไป  ต่อมาพิธีได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ พระสงฆ์จากวัดแหลมสุวรรณาราม สวดพระพุทธมนต์ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ

นายสรวิศ ยังน้อย ประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่าขณะนี้ทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาครได้เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างได้รับรู้ข้อกฏหมาย ซึ่งกิจการใดที่นายจ้างมีลูกจ้างตั้งแต่ 1คนขึ้นไปต้องนำลูกจ้างเข้าสู่ระบบประกันสังคมโดยให้มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนภายใน30วัน สำหรับจังหวัดสมุทรสาครนั้นถือว่ามีการใช้แรงงานจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศโดยมีแรงงานสัญชาติเมียนมาจำนวน 78,202 คน , สัญชาติลาว 1,611 คนและสัญชาติกัมพูชาจำนวน 1,940 คน  ซึ่งกลุ่มแรงงานทั้งหมดนี้ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนโดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1.ประเภทกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาวและกัมพูชาที่มีหนังสือเดินทาง 

ที่ลานสาครบุรี  ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร  นายเทพประสิทธิ์  วงษ์ท่าเรือ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เป็นประธานนำข้าราชการและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า  น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  รัชกาลที่ ๙  ในฐานะที่ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ ในการกำหนดให้วันที่ ๑๔ พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวัน “พระบิดาแห่งฝนหลวง”  เนื่องจากเมื่อวันที่

เมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๕๐ น.  ผู้สื่อข่าวมหาชัยเคเบิลทีวีได้พบกับสองหนุ่มจากแดนใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช  บริเวณเชิงปลายสะพานท่าจีน  ได้เดินเท้ามาเป็นเวลาประมาณ ๑๖ วันแล้ว  เพื่อเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในพระบรมมหาราชวัง  ซึ่งทั้งสองหนุ่มมาจากคนละอำเภอและออกเดินทางคนละวัน  แต่มาเจอกันที่หัวหิน  จึงได้ร่วมทางเดินเท้ามาด้วยกัน หนุ่มใหญ่คนแรกหรือนายสุชาติ  ศรีภักตรา  วัยกว่า ๕๐ ปี คนนี้ 

นายโชติพัฒน์  สิชฌรังสี  นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร  รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดสมุทรสาคร  เป็นประธานในพิธีเปิดตลาดน้ำคลองโคกขามร่วมใจประชารัฐ  ประจำปี ๒๕๕๙  พร้อมทั้งมีคณะกรรมการตลาดน้ำคลองโคกขาม  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และพ่อค้าแม่ค้า  ประชาชน  เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ตลาดน้ำคลองโคกขามร่วมใจประชารัฐ  เกิดขึ้นจากความต้องการของคนในหมู่บ้าน  ที่ต้องการสร้างพื้นที่ริมคลองโคกขาม หมู่ ๒ ให้เป็นตลาดนัดชุมชน  เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาด  เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 

เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤศจิกายนที่ผ่านมา  ที่บ้านของโค้ชณัฐพนธ์  ศรีสมุทรนาค  บริเวณถนนสรศักดิ์  ได้มีการแจกก๋วยจั๊บฟรี  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เสด็จสวรรคตครบ ๓๐ วัน  ยังความอาลัยแด่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน โดยโครงการแจกก๋วยจั๊บฟรี  ทำดีเพื่อพ่อหลวงในครั้งนี้นอกจากครอบครัวของโค้ชณัฐพนธ์    ศรีสมุทรนาคแล้ว  ยังได้รับความร่วมมือจากครอบครัวบ้านคีมทอง  ครอบครัวอาจารย์คอบอล  บ้านเซี่ยงโหล  บ้านอ่วมด้วง  บ้านเจือแจ่ม 

บรรยากาศการแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก วาระต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เป็นไปอย่างคึกคักมาก มีประชาชนมารอแลกกันตั้งแต่ตี 3  โดยผู้ที่มาก่อนได้มีการจัดเรียงลำดับคิวไว้อยู่แล้วเพื่อไม่ให้เกิดความชุลมุน และเมื่อถึงเวลา 9.00 น. ทางสำนักงานจึงเปิดแจกบัตรคิวและให้เข้าแลกเหรียญ โดยประชาชนที่มาแลกก็เดินเรียงลำดับตามที่ได้จัดกันไว้  ส่วนเหรียญที่เปิดแลกในวันนี้ประกอบด้วย ชุดที่ 1 จะเป็นชุดเหรียญ 3 วาระ

และนี่เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศเล็กๆแต่เต็มไปด้วยความอาดูรอาลัยของพี่น้องประชาชนชาวตลาดมหาชัยเมืองใหม่  ที่ได้ร่วมกันจุดเทียนถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  โดยมีประชาชนชาวตลาดมหาชัยเมืองใหม่และในหมู่บ้าน  รวมถึงละแวกใกล้เคียงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในพิธีประชาชนทุกคนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกัน  หลายคนนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์มาด้วย  ทุกคนต่างเปล่งเสียงร้อง  และรำลึกถึงพระองค์   บรรยากาศยังคงอยู่ในความโศกเศร้าอาลัย  ทุกคนยังคงแต่งกายด้วยชุดดำ  และมาร่วมจุดเทียนถวายความอาลัย  ทำให้ภายในตลาดมหาชัยเมืองใหม่แห่งนี้เต็มไปด้วยแสงเทียนแห่งความอาลัยนี้  การน้อมรำลึกถึงพระองค์ในครั้งนี้  แม้อาจจะเป็นสถานที่ท้ายๆที่มีการจัดงานขึ้น  แต่ความรักความเทิดทูนที่ประชาชนมีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  พ่อหลวงผู้เป็นที่รักยิ่ง  จะมิเลือนหายไป ไกรสร / ภาพ 

อีกหนึ่งกลุ่มคนพสกนิกรไทยที่ออกเดินทางไกลเข้าสักการะพระบรมศพก็คือ กลุ่ม 8 ชาวเมืองใต้กลุ่มนี้ ที่ได้ผ่านสมุทรสาครไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยในกลุ่มประกอบด้วย นักเดินวิ่ง 3  คน คือ นายโสฬส โมระนิธิสวัสดิ์ อายุ 26 ปี นายหัสดิน ศรีเทพ อายุ 33 ปี