ผู้ใหญ่บ้านต้นแบบสร้างฟาร์มเลี้ยงกระต่ายสร้างรายได้เสริม

พี่เมธ ฟาร์มกระต่าย1

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ชมฟาร์ม กระต่ายที่นับว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชื่อว่า “บุญส่งฟาร์ม” ตั้งอยู่ที่เลขที่ 61/1 หมู่ 12 ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร  โดยเจ้าของฟาร์มเป็นผู้ใหญ่บ้านหนุ่มไฟแรง ชื่อนายวิชัย อินสว่าง หรือ (เจี๊ยบ) อายุ 41 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ตำบลหลักสามฯ ซึ่งกว่าจะเป็นบุญส่งฟาร์มในวันนี้ ผู้ใหญ่เจี๊ยบต้องใช้เวลาในการสร้างสมประสบการณ์จากการเลี้ยงกระต่ายด้วยใจที่รักและผูกพัน  สาเหตุที่เลือกเลี้ยงกระต่าย  ก็เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่เงียบ  การดูแลก็ไม่ยาก ไม่เสี่ยงต่อโรค กระต่ายสามารถดำรงชีวิตได้ในสภาพภูมิอากาศโซนภาคกลาง  ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังเพียงอย่างเดียวในการเลี้ยงกระต่ายคือ โรคท้องเสียเท่านั้น  หากเป็นแล้วกระต่ายจะไม่ออกอาการ จะเก็บอาการจนตายในที่สุด ต้องมีข้อจำกัดและความพอดีในการให้อาหาร การเลี้ยงก็ไม่ยากให้อาหารเม็ดมื้อเดียว(โดยจำกัดปริมาณตามขนาดตัว) ที่สำคัญต้องมีขวดน้ำติดไว้ข้างกรงตลอดเวลา  แรกๆผู้ใหญ่เจี๊ยบเริ่มต้นเลี้ยงไว้ดูเล่นจำนวน 25 ตัว ต่อมาขยายพันธุ์จนสามารถแบ่งขายได้ในปี 2539  จากนั้นก็เริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น สามารถผสมพันธุ์ ทำคลอดได้เอง มีลูกมืออีกคนคอยช่วยดูแล ที่มากกว่านั้นผู้ใหญ่เจี๊ยบมีทักษะในการนำพ่อพันธุ์กับแม่พันธุ์มาผสมพันธุ์กันให้ได้สีตามที่ลูกค้าต้องการ  ตรงนี้ที่ทำให้บุญส่งฟาร์มเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มผู้นิยมเลี้ยงกระต่ายสายพันธุ์  ในพื้นที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักเนื่องจากมีกลุ่มที่นิยมเลี้ยงจำนวนน้อย  จึงนับเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และความชำนาญ

พี่เมธ ฟาร์มกระต่าย2

พี่เมธ ฟาร์มกระต่าย3

จังหวัดสมุทรสาครจึงได้คัดเลือกให้ผู้ใหญ่เจี๊ยบเป็นปราชญ์ ในการเลี้ยงกระต่าย ตอนนี้ที่บุญส่งฟาร์มมีกระต่ายสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศหลากหลายสายพันธุ์ มากกว่า 1,000 ตัว เลี้ยงในกรงภายในโรงเรือนโล่งโปร่งแบบธรรมชาติ แต่หลักๆมี 3สายพันธุ์ที่มีลูกค้านิยมเลี้ยงและมียอดสั่งซื้อมากที่สุดคือ 1.สายพันธุ์เนเธอร์แลนด์ ดวอฟ  เป็นชื่อของกระต่ายแคระสายพันธุ์หนึ่ง เป็นกระต่ายที่มีขนาดเล็กที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก น้ำหนักไม่เกิน 1.15 กิโลกรัม (หรือ 2 ปอนด์ครึ่ง)  2.สายพันธุ์ฮอลแลนด์ลอป เป็นสายพันธุ์ที่จดจำเจ้าของได้แม่นยำ จะจดจำได้ว่าใครที่ใกล้ชิด ใครให้อาหาร เป็นสายพันธุ์ที่พิเศษที่สุด และ3.สายพันธุ์หูตก จัดเป็นกระต่ายหูตกตัวเล็กที่กำลังได้ความนิยมในหมู่คนเลี้ยงกระต่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ เพราะมีความเชื่อง ฉลาด แสนรู้ราวกับตุ๊กตา ผู้ใหญ่เจี๊ยบบอกว่า ลูกค้ากลุ่มที่นิยมเลี้ยงจะไม่เกี่ยงในเรื่องของราคา  แต่ขอให้ได้ลูกกระต่ายที่มีสีตามที่ต้องการมีองค์ประกอบของรูปร่างที่เหมือนกับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มากที่สุด ราคาก็จะแตกต่างกันไป  โดยเริ่มตั้งแต่ 2,000 -5,000 บาท ในส่วนของรายได้จากการเลี้ยงกระต่ายก็ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ และรู้เทคนิค หากเอาใจใส่ดูแลดีกระต่ายก็จะมีสุขภาพดี มีความพร้อมในการขยายพันธุ์ได้ทั้งปีสามารถให้ลูกได้ถึง 3-4 คอกต่อปี ใช้เวลาในการตั้งท้อง 29-33 วัน คอกหนึ่งให้ลูกได้สูงถึง 5 ตัว ผู้ใหญ่เจี๊ยบจะมีความผูกพันกับกระต่ายทุกตัว จนสามารถจดจำลักษณะนิสัยได้ทุกตัว วิเคราะห์ประเมินได้ว่าแม่กระต่ายตัวใดที่เลี้ยงลูกไม่ดีก็จะแยกไปฝากแม่กระต่ายตัวอื่นที่คลอดในระยะเดียวกัน เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกกระต่ายที่เกิดมา  เมื่ออายุครบ 1 เดือนจึงจะขายได้เพราะลูกกระต่ายไม่สามารถกินนมชนิดอื่นๆได้เลย  ผู้ที่สั่งซื้อกระต่ายจาก บุญส่งฟาร์มจะได้กระต่ายที่มีประวัติจากสำมะโนประชากรกระต่าย (หรือทะเบียนประวัติ) บ่งบอกถึงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ให้กำเนิดลูกกระต่ายตัวใด ระบุวันเวลาที่ชัดเจน สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้สามารถเลือกเลี้ยงกระต่ายสายพันธุ์ขนกำมะหยี่ก็ได้ ถ้าอยากเลี้ยงกระต่ายที่ซนๆไม่ค่อยนิ่งให้เลือกเลี้ยงตัวผู้ ถ้าชอบเลี้ยงแบบสงบๆเรียบร้อยให้เลือกเลี้ยงตัวเมีย  ทั้งนี้บุญส่งฟาร์มไม่ใช่ฟาร์มที่ทำเพื่อธุรกิจเพียงอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้เข้ามาชม ศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตของกระต่ายได้ด้วย  โดยผู้ใหญ่เจี๊ยบจะเป็นผู้พาชมให้ความรู้ในทุกๆเรื่อง หากหน่วยงานใดสนใจจะมาเยี่ยมชมกระต่าย ก็ติดต่อกันไปได้ที่บุญส่งฟาร์มกันได้ทุกวัน

สุเมธ/ภาพ/ข่าว