“ปล่อยตัวผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 108 ราย”
เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 พร้อมด้วย นางเอมอร แดงบรรจง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร นายอานนท์ เนียมเงิน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมพิธี
ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศพระราชดำริว่า เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 จึงพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสบุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป โดยมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้ดำเนินตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ และเสนอคณะกรรมการตามมาตรา 21 ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล และอัยการจังหวัด ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบดำเนินการเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร และในวันนี้ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดทำหมายปล่อยตัว และมอบใบบริสุทธิ์ให้แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวน 2 กลุ่ม รวม 108 ราย ได้แก่ 1.กลุ่มที่ได้รับการอภัยโทษ กรณีโทษกักขัง จำนวน 8 ราย 2.กลุ่มที่ได้รับการอภัยโทษ กรณีโทษจำคุก หรือกักขัง จำนวน 100 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษทั้งหมดนี้ ได้ผ่านการอบรมโคกหนองนา รุ่นที่ 1 อบรมทั้งสิ้น 14 วัน
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษว่า โดยปกติแล้วการที่ผู้ต้องราชทัณฑ์ จะได้รับการปล่อยตัว จะต้องได้รับโทษจำคุกจนครบตามกำหนดโทษที่ศาลมีคำพิพากษา แต่ด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของปวงชนชาวไทย ท่านทรงเล็งเห็นถึงการพระราชทานโอกาสแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ได้กลับตนเป็นพลเมืองดี กลับไปใช้ชีวิตกับสมาชิกครอบครัว เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป จึงได้พระราชทานอภัยโทษในวโรกาสสำคัญต่างๆ ดังนั้นขอให้ทุกคนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตั้งใจกลับตนเป็นคนดี ประกอบสัมมาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในครรลองครองธรรม หลีกไกลจากยาเสพติดและอบายมุขทั้งปวง
ทั้งนี้ในส่วนของบรรยากาศด้านนอกเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้มีบรรดาครอบครัวของผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ มารอบุคคลอันเป็นที่รัก ที่จะได้รับอิสรภาพ ซึ่งเมื่อเดินออกมา ต่างก็เดินไปสวมกอดครอบครัว บางรายได้ก้มกราบพ่อแม่ที่มาเฝ้ารอลูก เป็นบรรยากาศที่ซาบซึ้งและแสนอบอุ่นอย่างมาก
ธรษธร / ภาพ กันยารัตน์ / ข่าว