สมุทรสาคร MOU กำจัดผักตบชวา
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืช ระหว่างผู้อำนวยการโครงการชลประทานพื้นที่จังหวัดทั้ง 5 โครงการกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการกำจัดวัชพืชและผักตบชวาไม่ให้กีดขวางทางน้ำ โดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธานในพิธี และมีนายสมชาย เมธาวัฒน์ธรากุล รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนกรมชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆเข้าร่วมในพิธีด้วย
นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญในการดำเนินการกำจัดผักตบชวาพร้อมทั้งกำหนดแนวทางการบูรณาการโดยใช้กลไกการทำงานจากทุกภาคส่วนในการดำเนินการรูปแบบประชารัฐ นั้น ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครได้จัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟู รักษาดูแลแม่น้ำลำคลอง ให้สะอาดปราศจากผักตบชวาและวัชพืชอย่างยั่งยืน ระหว่างส่วนราชการ กรมทหารสื่อสารที่ 1 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ในการทำงานได้เน้นการบรูณาการจัดเก็บทั้งสายคลอง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสายคลองร่วมกัน พร้อมทั้งเน้นการรณรงค์ปลูกฝังให้ประชาชนช่วยกันเก็บผักตบชวาเศษเล็กเศษน้อยตามหน้าบ้าน โดยใช้กลไกชมรมคนริมน้ำ และได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามผลการดำเนินงานของคณะทำงานแก้ไขปัญหาผักตบชวาระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อตรวจแหล่งน้ำต่างๆตามสายคลองแล้วรายงานผลให้คณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผักตบชวาระดับจังหวัดทราบทุกเดือน เพื่อตอบสนองนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล
ในครั้งนี้จังหวัดสมุทรสาคร จึงจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในการกำจัดผักตบชวา วัชพืช และขยะมูลฝอย ระหว่างผู้อำนวยการโครงการชลประทานพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้ง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการชลประทานสมุทรสาคร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดำเนินสะดวก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครชุม กับองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดทั้งหมด จำนวน 38 แห่ง เพื่อเป็นบูรณาการการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งจะทำให้สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้นและเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ผู้ใช้เรือสัญจรในการดำรงวิถีชีวิต ปรับปรุงคุณภาพแหล่งน้ำให้ดีขึ้น ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์แม่น้ำ ลำคลองและพันธุ์สัตว์น้ำ อีกทั้งเป็นการปรับภูมิทัศน์ริมคลองให้เกิดความร่มรื่น สะอาดตา สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ และที่สำคัญเป็นการแก้ไขปัญหาด้านการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน อีกด้วย…..//
เอเชีย ภาพ / พรเพ็ญ ข่าว