น้องแพรว เด็กสาวสู้ชีวิต

นี่คือ นางสาวผจงพร วงศ์พนากิจ หรือน้องแพรว เด็กนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ ซึ่งเป็นเด็กสาวผู้สู้ชีวิต ฝ่าฝันอุปสรรคปัญหาของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก จนวันนี้น้องแพรวบอกว่า พอที่จะยิ้มออกได้บ้างแล้ว น้องแพรว ได้เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตให้ทีมข่าวมหาชัยเคเบิล ทีวีฟังว่า เธอเอง เกิดในครอบครัวคนจีน มีพี่ชายหนึ่งคน ซึ่งครอบครัวที่มีลูกสาวก็ไม่ค่อยชอบเด็กผู้หญิงนัก เธอจึงต้องไปอยู่กับอาม่า และได้เรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุสรณ์ศุภมาศ เมื่อเรียนถึงชั้น อนุบาล3 อาม่าก็ประสบเหตุจนเป็นอัมพฤกษ์ เธอเองจึงต้องไปอยู่กับอา ซึ่งอามีแต่ลูกผู้ชายก็อยากมีลูกสาว จึงเอาเธอไปเลี้ยงและรักเธอเหมือนกับลูก ได้รับการดูแลทุกอย่าง และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเลิศหล้า เพราะอาอยากให้มีพื้นฐานทางด้านภาษาที่ดี เธอเรียนที่นั่นจนถึง ชั้นป.5 ก็มีเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากที่จะอยู่ในบ้านหลังนั้น เธอจึงขอย้ายออกจากบ้านอาและขอไปอยู่กับพ่อ แต่ช่วงนั้นพ่อก็มีภรรยาใหม่ ทำให้ชีวิตของเธอต้องเจอกับมรสุม เจอกับอุปสรรคปัญหามาตลอดและยังต้องพักการเรียนไปเกือบ 3 ปี จนในที่สุดเธอก็ได้รับการช่วยเหลือ และได้เรียนที่โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์  แต่ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเธออีกเพราะช่วงนั้นพ่อต้องประสบกับปัญหาชีวิตอย่างหนัก ต้องย้ายจากสมุทรสาครไปอยู่สมุทรสงคราม เธอก็ต้องย้ายไปด้วย ทำให้การเดินทางมาเรียนค่อนข้างลำบาก  และอีกเหตุหนึ่งที่ดูว่าจะหนักสุดสำหรับเด็กผู้หญิงอย่างเธอ คือการถูกพ่อให้ออกจากบ้าน ในเวลาตี 2 เพราะช่วงนั้นพ่อของเธอก็ต้องเจอกับปัญหาชีวิตที่ถาโถม ซึ่งเหตุผลที่พ่อไล่เธอออกจากบ้าน เธอบอกว่าอาจเป็นเพราะพ่อไม่อยากให้เธอต้องมาเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากด้วยในช่วงนั้น คืนนั้นเธอจึงโทรหาครูให้มารับ และสุดท้ายเธอก็ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง ด้วยการเช่าห้องอยู่คนเดียว ทำงานหารายได้เสริมเพื่อส่งตัวเองเรียน ซึ่งงานที่เธอทำคือการรับจ้างสอนภาษาให้กับเด็กๆตามสถาบันสอนภาษาต่างๆ เพราะเธอค่อนข้างมีความสามารถทางด้านภาษา และเมื่อจบ ม.3ที่โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์ จึงตั้งใจเข้าศึกษาต่อที่สมุทรสาครบูรณะ ซึ่งการเรียนที่นี่เธอจะได้รับทุนการศึกษาทุกครั้ง และตอนนี้ทางโรงเรียนก็เตรียมทำเรื่องยกเว้นค่าเทอมด้วย

ชีวิตของเธอต้องบอกว่า ผ่านมาได้ด้วยจิตใจอันเข้มแข็งและแน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และเป็นเด็กที่ใฝ่ดี มีหลายช่วงที่ชีวิตของเธอต้องลุ่มๆดอนๆ ดีบ้าง ร้ายบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ตลอด แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่หนัก แต่เธอก็ต้องสู้ ทุกวันนี้ พ่อของเธอก็กลับมาอยู่ด้วย แต่พักอาศัยคนละที่กัน แต่มีอะไรก็จะคุยกันเสมอ บางครั้งที่เธอแย่ พ่อก็ช่วยเหลือ บางครั้งที่พ่อลำบากเธอก็ต้องเอาเงินเก็บไปช่วยเหลือพ่อเช่นกัน ตอนนี้เธออยู่ห้องเช่ากับพี่ชาย ที่ชีวิตของสองพี่น้องนี้ก็ไม่ต่างกันนัก ต้องนับหนึ่งใหม่พร้อมกัน พี่ชายจะมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ และต้องไปหางานทำด้วย น้องแพรวบอกว่า รายได้ที่ได้จากการทำงานนอกจากจะใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ก็ต้องเก็บไว้ใช้ศึกษาต่อในชั้นอุดมศึกษา เธอคิดว่าคงจะเอาดีทางสายครู แต่ก็จะไม่ทิ้งอาชีพนักบริหารที่ใฝ่ฝันไว้ และความฝันอันสูงสุดก็คือ อยากมีสถาบันสอนภาษาเป็นของตนเอง เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้เธอสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้ เธอบอกพร้อมน้ำตาว่า เธออยากเจอแม่ หวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้เจอกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนเดียวที่เธออยากให้มาอยู่ข้างเธอมากที่สุด ภาพที่น้องแพรวจำได้มาถึงทุกวันนี้ คือวันก่อนที่แม่จะไปจากเธอ แม่พาเธอไปเล่นไปเที่ยวทั้งวัน เป็นวันที่เธอมีความสุข แต่แม่คงมีเหตุผลที่เลือกเดินออกจากชีวิตเธอไป หากเป็นไปได้ ขอให้เธอได้เจอกับแม่อีกครั้ง เธอจำได้เพียงว่า ใครๆก็เรียกแม่ของเธอว่า อ้อยใจ หญิงใบ้ที่มีหน้าตาคล้ายกับเธอมาก

ซึ่งทางด้านนางจันทร์กรา บัวจง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ ซึ่งเป็นครูที่ดูแลในกิจกรรมออกค่ายถ่ายภาพ ที่น้องแพรวเข้าร่วมกิจกรรมด้วยบอกว่า ตอนแรกก็ไม่ทราบเรื่องราวของชีวิตเด็กคนนี้ เป็นเพราะการออกค่ายครั้งนั้น จึงทำให้ทราบเรื่อง เพราะครูเป็นผู้ไปส่งน้องที่ห้องพัก จึงรู้ว่าน้องต้องสู้ชีวิตตามลำพัง ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อมีอะไร ครูก็จะคอยช่วยเหลือ ยามเจ็บป่วยก็จะคอยถามไถ่และไปดูแลที่ห้องบ้าง และตอนนี้เมื่อมีทุนอะไรเข้ามาก็จะส่งชื่อน้องเพื่อขอทุน เพราะเห็นว่าน้องแพรวเป็นเด็กเรียนดี พฤติกรรมดี เป็นเด็กที่ใฝ่ดี และผลงานล่าสุดก็คือ เป็นหนึ่งในทีมของโรงเรียนสมุทรสาครบูรณะที่ทำมิวสิควิดีโอพระราชาผู้ทรงธรรม และได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับประเทศ

และนี่ก็เป็นตัวอย่างชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาชีวิต นับเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเยาวชนและใครอีกหลายๆคนที่ต้องเผชิญกับปัญหามากมาย  ซึ่งใครที่อยากช่วยเหลือหรือสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับน้องแพรว สามารถติดต่อผ่านทางโรงเรียนสมุทรสาครบูรณะได้

เอเซีย ภาพ/พรเพ็ญ ข่าว