ไข่เจียวมิตรภาพ หนุ่มไทยใจดีช่วยสาวญี่ปุ่นถูกแท็กซี่ปล่อยทิ้งกลางทาง

ADS-cable-tv-website-6-12-61-(แก้)

footer_master

กำลังเป็นภาพข่าวที่โด่งดังและมีการกล่าวถึงชื่นชมเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องราวของหนุ่มไทย ที่ได้ช่วยเหลือสาวชาวญี่ปุ่น พร้อมกับเจียวไข่ให้ทาน โดยหลังจากที่สมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า อธิชนม์ ฉะฉ่ำ หนุ่มไทยวัย 36 ปี ได้โพสต์ภาพและบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสาวชาวญี่ปุ่น ที่ถูกแท็กซี่พามาทิ้งไว้แถวหมู่บ้านอ้อมน้อย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 22.31 น.

footer_master

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับอธิชนม์หรือเอก ฉะฉ่ำ หนุ่มไทยใจดีคนเมืองพิษณุโลกรายนี้ ซึ่งได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนดังกล่าวตามที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก พร้อมกันนี้ก็ยังบอกอีกว่า คืนนั้นตนเองพร้อมกับแฟนสาวและเพื่อนๆ นั่งทานอาหารและพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน เมื่อเห็นสาวชาวญี่ปุ่นที่ถูกแท็กซี่ปล่อยทิ้งลงกลางทางเดินมาหาเพื่อที่จะถามทางนั้น พวกตนก็ไม่รู้จะสื่อสารกันอย่างไร โชคดีที่ได้แอพแปลภาษา จึงพอจะคุยกันรู้เรื่องจับใจความได้บ้างในบางประโยค แต่ก็สามารถช่วยหญิงสาวได้ในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่องกิน จนถึงการพาส่งกลับไปหาแฟนหนุ่มและครอบครัวได้สำเร็จ

ส่วนที่มาที่ไปของข้าวไข่เจียวนั้น เกิดจากตนเองได้เอาน้ำให้หญิงสาวชาวญี่ปุ่นดื่มก่อน แล้วก็เห็นว่าดื่มน้ำอย่างรวดเร็วจึงคิดว่าคงจะหิวมาก ทั้งนี้ตนจึงได้ให้แฟนสาวไปเจียวไข่ให้สาวญี่ปุ่นทาน เพราะที่บ้านตนเองก็ไม่มีกับข้าวอื่นจะให้ทานแล้ว ซึ่งหลังจากที่ได้ทำไข่เจียวให้หญิงสาวญี่ปุ่นกินแก้หิวเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ติดต่อรถแท็กซี่ของเพื่อนให้พาหญิงสาวญี่ปุ่นไปส่งถึงที่หมายปลายทางอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ตนเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือชาวต่างชาติรายนี้ ซึ่งในส่วนของข้าวไข่เจียวนั้นแม้จะเป็นเพียงอาหารจานเล็กๆ ธรรมดาๆ แต่ก็ทำให้เกิดมิตรภาพที่ดีระหว่างคนให้และคนรับที่ต่างเชื้อชาติต่างภาษา ขณะที่ทางด้านของแท็กซี่ที่นำมาทิ้งไว้กลางทางนั้น ตนเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ซึ่งก็อาจจะมาจากความจำเป็นบางอย่าง หรือมาจากการขาดความรับผิดชอบในหน้าที่และอาชีพที่ปฏิบัติอยู่ แต่ที่แน่ๆ คือ พฤติกรรมของแท็กซี่รายนี้ได้ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงในสายตาของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นรายนี้และครอบครัวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

footer_master

สุเมธ/ภาพ/ข่าว