ประมงเดือดร้อน บช.คนเรือถูกอายัด

ประมง1 copy

เมื่อเวลา 9.00 น. ของวันที่ 24 กันยายน 2568 เจ้าของเรือประมงประมาณ 30 รายได้เดินทางไปที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากตอนนี้เกิดปัญหาบัญชีคนเรือถูกอายัดมากกว่าร้อยคน ทำให้เงินเดือนที่นายจ้างโอนเข้าบัญชีไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ และเจ้าของเรือก็ต้องจ่ายเงินสดเพิ่มเพื่อให้ลูกน้องคนงานได้มีเงินใช้

 

แต่ปัญหานี้ยังไม่จบ เพราะทุกคนยังกังวลว่า อาจจะมีการอายัดบัญชีเพิ่มอีก ซึ่งหากเป็นแบบนี้ เจ้าของเรือต้องแบกรับการจ่ายค่าจ้าง 2 ทาง ทั้งต้องโอนเข้าบัญชีเพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ที่บอกว่านายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างผ่านระบบบัญชีธนาคารเท่านั้น หากไม่ทำจะมีโทษ หนักสุดคือไม่สามารถออกเรือได้ และต้องจ่ายเงินสดให้ลูกน้องอีก เรือบางลำโดนอายัดหลายคน เจ้าของเรือก็ต้องสำรองเงินจ่ายหลายแสนบาท

 

จากปัญหานี้วันนี้นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร พร้อมกับเจ้าของเรือราว 30 คน ต้องเข้าขอความช่วยเหลือกับทางสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาครเพื่อขอให้การจ่ายเงินค่าจ้างในช่วงนี้ไม่ต้องจ่ายเข้าระบบบัญชีธนาคาร ให้จ่ายเป็นเงินสดแทน โดยให้มีการทำหนังสือหรือหลักฐานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่า เจ้าของเรือมีการจ่ายค่าจ้างตามปกติ

ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวเจ้าของเรือประมงหลายรายก็แสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ไม่ต้องกลัวว่านายจ้างจะเอาเปรียบลูกจ้าง โดยไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งปัจจุบันแรงงานภาคประมงก็หายากอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ประกอบการเองต่างหากที่จะต้องเอาใจลูกน้องไม่ทำผิดเงื่อนไข ทั้งระบบตรวจสอบของราชการก็มีขั้นตอนที่เข้มข้นอยู่แล้ว ไม่มีทางที่ลูกจ้างจะถูกเอาเปรียบ

 

โดยที่ผ่านมา มีลูกเรือหลายคนทยอยโดนอายัดบัญชีจำนวนมาก เท่าที่นายจ้างสังเกตคือ บัญชีลูกน้องที่เป็นแรงงานข้ามชาติ ชื่อบัญชีจะเหมือนกันหลายคน เช่น นายหม่อง, นายวิน หรืออะไรอีกหลายชื่อ เมื่อบัญชีคนชื่อหม่องโดนอายัด บัญชีที่ชื่อเดียวกันก็โดนอายัดกันไปทั้งหมด ทำให้ลูกน้องไม่สามารถเบิกเงินไปใช้ได้ ทำให้เกิดความเดือดร้อน เพราะทุกคนต้องใช้จ่าย เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ เจ้าของเรือจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยการจ่ายเงินค่าจ้างแบบเงินสดให้ไปอีก เท่ากับในเดือนนั้น เจ้าของเรือต้องมีเงินสำรองเพื่อจ่ายค่าจ้างเป็น 2 เท่า เพื่อให้ลูกน้องคนเรือมีเงินใช้จ่าย และเมื่อเกิดปัญหา เจ้าของเรือก็ได้ไปติดต่อกับธนาคารกันแล้ว ซึ่งธนาคารบอกว่าต้องใช้เวลา 7-14 วัน แต่วันนี้ผ่านไปเดือนกว่าบัญชียังไม่ถูกปลด และที่น่ากังวลกว่านั้นคือ อีกไม่กี่วันจะสิ้นเดือน จะถึงเวลาที่ต้องจ่ายค่าจ้าง ทำให้เจ้าของเรือประมงกลัวว่า หากมีเงินจ่ายเข้าไป และบัญชีลูกน้องคนเรือถูกอายัดเพิ่มอีก นั่นหมายถึง ต้องมีเงินสดสำรองเพื่อจ่ายเป็นเงินสดอีกก้อน ซึ่งเมื่อคิดคร่าวๆ แต่ละลำก็ต้องมีเงินสำรองหลายแสน บางลำเกือบล้านบาท เพราะต้องจ่ายเงินทั้งในระบบบัญชี และเยียวยาหากถูกอายัดด้วยการจ่ายแบบเงินสด จึงทำให้เจ้าของเรือรู้สึกรับไม่ไหว จึงอยากให้ทางสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ช่วยวางมาตรการสำหรับในช่วงที่เกิดปัญหาบัญชีถูกอายัด ให้เจ้าของเรือจ่ายค่าจ้างด้วยระบบเงินสดไปก่อน และพร้อมที่จะทำเอกสารเพื่อยืนยันการจ่ายค่าจ้างไว้เป็นหลักฐาน

 

ด้านนางสาวปัทมาภรณ์ วีระจิตต์  นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงว่า ตอนนี้ทางสำนักงานฯยังไม่สามารถให้เจ้าของเรือจ่ายเงินค่าจ้างแบบเงินสดได้ เนื่องจากกฎหมายบังคับให้เจ้าของเรือต้องจ่ายเข้าระบบบัญชีเท่านั้น ส่วนเจ้าของบัญชีที่ถูกอายัดไปแล้ว ให้เจ้าของเรือไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจและนำหลักฐานจากธนาคารมาเป็นหลักฐานส่งไว้ที่สำนักงาน ทางสำนักงานก็จะประสานให้หน่วยงานต้นสังกัดหามาตรการผ่อนปรนให้

 

ทั้งนี้เมื่อทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ยังไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ ชาวประมงสมุทรสาคร จึงเข้าพบกับร้อยตำรวจเอกเขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยทางรองผู้ว่าฯ จะช่วยประสานไปกับทางธนาคารให้เร่งปลดบัญชีที่ถูกอายัดให้เร็วขึ้น และจะช่วยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้หาวิธีผ่อนปรนเรื่องการจ่ายค่าจ้างลูกเรือประมงให้ด้วย

 

และเช้าวันที่ 25 กันยายน 2568 กลุ่มชาวประมงจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือกับทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากการทำประมง ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐต้องมีแผนรองรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

เอเซีย ภาพ / พรเพ็ญ ข่าว

 

 

 

 

ประมง11 copy ประมง10 copy ประมง9 copy ประมง8 copy ประมง7 copy ประมง6 copy ประมง5 copy ประมง4 copy ประมง3 copy ประมง2 copy