ทีมเต็มเหนี่ยวเข้าซอยกองพล สั่งปิด 6 โรงงาน
ชาวบ้านร้องมลพิษ “ธนกร” ลั่นจัดหนัก! ส่งทีม “เต็มเหนี่ยว” สแกนเข้มกลุ่มโรงหลอมโลหะ ซอยกองพนันพล กลางเมืองสมุทรสาคร ลุยปิดรวด 6 โรงงาน
จังหวัดสมุทรสาคร – เมื่อวันที่ 11 พย. 2568 กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับข้อร้องเรียนจากราษฎรบริเวณซอยกองพนันพล ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง สมุทครสาคร ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีโรงงานหล่อหลอมแอบปล่อยฝุ่นควัน และไม่เปิดระบบบำบัดอากาศ เนื่องจากต้องการลดต้นทุนการผลิต ก่อให้มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้าง นั้น
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า “ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และห่วงใยพี่น้องประชาชนบริเวณซอยกองพนันพล จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีโรงงานขนาดเล็กประกอบกิจการหลอมโลหะอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสั่งการชุดปฏิบัติการ “เต็มเหนี่ยว” กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน เพราะหากสถานการณ์ฝนหมดไปเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศนิ่งและแห้ง การไหลเวียนของอากาศไม่ดี จะยิ่งส่งผลให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 สะสมในอากาศได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากปล่อยไว้ปัญหาดังกล่าวจะรุนแรงขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ ได้มีการเตรียมมาตรการดูแลลดฝุ่น PM 2.5 ของภาคอุตสาหกรรมในช่วงฤดูฝุ่นของปีนี้ไว้แล้ว“
ชุดเต็มเหนี่ยว นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเต็มเหนี่ยว นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เข้าตรวจสอบกลุ่มโรงงานหลอมอะลูมิเนียม ในซอยกองพนันพล สมุทรสาคร ที่มีโรงงานหลอมโลหะ รวมกว่า 66 แห่ง โดยเข้าตรวจเชิงรุกโดยไม่ให้รู้ล่วงหน้า จำนวน 6 แห่ง พบว่า 1) โรงงานของนายคมกฤษณ์ เลิศพนานนท์ มีการใช้ระบบบำบัดมลพิษทางอากาศเเต่ไม่สามารถดูดรวบรวมควันจากเตาหลอมเข้าสู่ระบบบำบัดทำให้เขม่าควันจากการหลอมฟุ้งกระจายไปทั่ว 2) บริษัท สหพันธ์ อลูมีเนียม จำกัด พบเขม่าควันจากการหลอมฟุ้งกระจายภายในอาคารโรงงาน เนื่องจากระบบบำบัดมลพิษทางอากาศไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งสองโรงงานดังกล่าว สอจ.สมุทรสาคร ได้สั่งระงับการใช้เตาหลอมทันที จนกว่าจะปรับปรุงระบบให้ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพเพียงพอ
3) บริษัท เอแอล.โซลูชั่น จำกัด มีการใช้เตาหลอมในการหลอมอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ให้หยุดไปก่อนหน้านี้ 4) บริษัท เอส เอส อินกอต อะลูมิเนียม จำกัด พบทำผิดกฎหมายหลายประการ เช่น โรงงานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เดินเครื่องจักรโดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมถึงใช้เครื่องจักรเกินกว่าสิทธิที่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 12 และมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้หยุดประกอบกิจการในส่วนที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต และให้ชี้แจงการจัดการน้ำเสียของระบบบำบัดมลพิษโดยด่วน 5) โรงงานของนายปราโมทย์ เตชะพิริยะกุล มีการติดตั้งเครื่องจักร กำลังรวม 77 แรงม้า เป็นการกระทำความผิด ข้อหาตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ และ 6) บริษัท เค.เอส.ทรัพย์รุ่งเรือง อินกอต จำกัด ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวม 139 แรงม้า คนงาน 4 คน โดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นการกระทำความผิดข้อหาตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
3) บริษัท เอแอล.โซลูชั่น จำกัด มีการใช้เตาหลอมในการหลอมอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ให้หยุดไปก่อนหน้านี้ 4) บริษัท เอส เอส อินกอต อะลูมิเนียม จำกัด พบทำผิดกฎหมายหลายประการ เช่น โรงงานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เดินเครื่องจักรโดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมถึงใช้เครื่องจักรเกินกว่าสิทธิที่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 12 และมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้หยุดประกอบกิจการในส่วนที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต และให้ชี้แจงการจัดการน้ำเสียของระบบบำบัดมลพิษโดยด่วน 5) โรงงานของนายปราโมทย์ เตชะพิริยะกุล มีการติดตั้งเครื่องจักร กำลังรวม 77 แรงม้า เป็นการกระทำความผิด ข้อหาตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ และ 6) บริษัท เค.เอส.ทรัพย์รุ่งเรือง อินกอต จำกัด ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวม 139 แรงม้า คนงาน 4 คน โดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นการกระทำความผิดข้อหาตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ในขณะพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานทั้ง 6 แห่งยังคงประกอบกิจการ สอจ.สมุทรสาคร จึงได้สั่งการตามมาตรา 37 ให้ปรับปรุงแก้ไขและระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน และส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หากยังพบการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ก็จะดำเนินคดี ทุกครั้งที่ตรวจพบ
ทั้งนี้ นายฐาปกรณ์ กล่าวว่า ”การประกอบกิจการโรงงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 1. จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน 2. ต้องควบคุมผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ดี โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพอากาศ น้ำเสีย พร้อมย้ำว่า หากประชาชนพบปัญหาจากโรงงานในพื้นที่ สามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือได้ทุกช่องทาง หรือที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ“











